Slide

Automatic Slideshow

รีวิวม่อนจอง-แม่ตื่น (เมืองตื๋นนันทบุรี)

1 / 4
ดอยม่อนจอง
2 / 4
น้ำตกแม่ตื่นน้อย
3 / 4
บรรยากาศยามเย็นดอยม่อนจอง
4 / 4
วัดจอมหมอก บ้านห้วยไม้หก

น้ำตกแม่ตื่นน้อย



น้ำตกแม่ตื่นน้อย แหล่งไม้กลายเป็นหิน ตั้งอยู่ใน ต.แม่ตื่น อ.แม่ตื่น 
เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแหล่งหนึ่งของอำเภอแม่ตื่น เพราะมีความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณธรรมชาติ และมีน้ำตกไหลลงจากผาหินขนาดใหญ่่ และไหลเป็นลำธารลงไปสู่ทิศใต้

บรรยากาศระหว่างทางไปน้ำตกแม่ตื่นน้อย

เป็นบรรยากาศการทำนาขั้นบันไดที่เป็นเอกลักษณ์ในบ้านแม่ตื่น
สภาพภูมิประเทศ ล้อมรอบด้วยทิวเขา 


เส้นทางไปยังบ้านแม่ตื่นน้อย เป็นถนนคอนกรีต ค่อนข้างดี มีที่เป็นถนนขรุขระบางช่วง

 การเดินทางไปน้ำตกแม่ตื่นน้อย
             เริ่มต้นจากหมู่บ้านห้วยน้ำขาว มาหมู่บ้านแม่ตื่นน้อยประมาณ   2   กิโลเมตร
                                     

   จากนั้นก็จะมีทางขึ้นดอยไปร้านขายของประจำหมู่บ้านแม่ตื่นน้อยหรือชาวบ้านและหมู่บ้านใกล้เคียงเรียกกันว่า เซเว่นแม่ตื่นน้อย  เพราะร้านนี้ขายของทุกอย่าง ประมาณ  500 เมตร จากป้ายหมู่บ้านแม่ตื่นน้อย
สามแยกในหมู่บ้านแม่ตื่นน้อย ให้เลี้ยวซ้ายเพื่อไปน้ำตกแม่ตื่นน้อย

เซเว่นแม่ตื่นน้อย

  ถ้าหากนักท่องเที่ยวซื้อของเสร็จ ก็เดินทางไปน้ำตกแม่ตื่นน้อยประมาณ  2  กิโลเมตร ก็ถึงน้ำตกแม่ตื่นน้อย  ถ้าหากถึงแล้วไม่สามารถนำรถเข้าไปได้เพราะเป็นทางเดินนักท่องเที่ยวต้องเดินเท่านั้น  เป็นทางเดินเข้าไปในน้ำตกประมาณ  800  เมตร



เส้นทางไปน้ำตกแม่ตื่นน้อย 

ช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การท่องเที่ยว

              การที่จะไปเที่ยวน้ำตกแม่ตื่นน้อยควรไปเที่ยวตั้งแต่เดือน มีนาคม-มิถุนายน  เพราะเป็นฤดูร้อนเหมาะแก่การท่องเที่ยวถ้านักท่องเที่ยวท่านใดไปเที่ยวก็จะได้เห็นธรรมชาติและน้ำที่เย็นเหมาะแก่การเล่นน้ำที่ทำให้สดชื่น  สบายตัว  ในฤดูร้อนนั้น




วัดจอมหมอก

       วัดจอมหมอกเป็นสถานที่สำคัญในอำเภอแม่ตื่นที่พระอริยเจ้าผู้ใหญ่เคยมาปฏิบัติธรรม เช่นครูบาพรหมจักรโก วัดพระพุทธบาทตากผ้า  อำเภอ ป่าซาง เคยมาอยู่ปฏิบัติธรรมและหลวงปู่ครูบาเจ้าชัยวงค์สาพัฒนา  วัดพระพุทธบาทห้วยต้มเคยมาจำพรรษาอยู่

ทางไปวัดจอมหมอก


พระเจดีย์ทองในบริเวณวัดจอมหมอก


สิ่งที่โดดเด่นของวัดจอมหมอก


บ่อน้ำทิพย์  พระวิหาร  มีรอยมือรอยเท้าครูบาวงค์   อนุเสาวรียครูบาวงค์   พระธาตุเจดีย์  และรูปปั้นครูบาพรหม



ปัจจุบันของวัดจอมหมอก

ปัจจุบันมีพระครูสถิตศุภกาลศรีหนันโธ (พระครูบา  ชานุ)  เป็นเจ้าอาวาสซึ่งเป็นพระผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือของคนในพื้นที่  ต. แม่ตื่น












วิธีเดินทางไปวัดจอมหมอก 


จากสะพานห้วยไม้หกเข้าไปในหมู่บ้านห้วยไม้หกประมาณ  500  เมตร 



ป้ายบอกทางไปห้วยไม้หก

เมื่อข้ามสะพานไปแล้วก็จะมีสามแยกสำหรับเข้าไปในหมู่บ้าน ทางซ้ายมือของนักท่องเที่ยว

 เมื่อเลี้ยวซ้ายตามทางมาเรื่อยๆ จะเจอสี่แยก และป้ายบอกทางไปวัดจอมหมอก ระยะทาง 1 กิโลเมตรให้เลี้ยวขวา


ทางไปวัดจอมหมอก

เข้ามาเรื่อยๆก็จะเจอป้ายวัดจอมหมอกเมื่อเลี้ยวซ้ายที่ป้ายวัดก็จะเห็นบันไดนาคที่ไว้สำหรับขึ้นไปกราบไหว้พระธาตุ

ป้ายบอกทางของวัดจอมหมอก


ทางขึ้นไปของวัด บรรยากาศล้อมรอบไปด้วยต้นไม้


บันไดนาคสำหรับขึ้นไปกราบไหว้พระธาตุ (ทางขวามือ)


บันไดนาคอีกข้าง (ทางซ้ายมือ)


เส้นทางสำหรับรถยนต์ขึ้นมาบริเวณลานหน้าพระวิหาร วัดจอมหมอก


พระวิหารของวัดจอมหมอก


บนบริเวณหน้าพระวิหารของวัดจอมหมอกจะมีลานกว้าง และบริเวณด้านหลังของพระวิหารจะมีเจดีย์สีทอง สวยเด่นสะดุดตา

เจดีย์วัดจอมหมอก


วัดจอมหมอก หมู่ 6  ห้วยไม้หก  ต. ม่อนจอง  อ.  อมก๋อย  จ. เชียงใหม่  วัดราษฎร์  มหานิกาย ได้รับอนุญาตตั้งเป็นวัดตอน  พ.ศ. 2442


ภาพบรรยากาศระหว่างทางเข้าวัดจอมหมอก




การเดินทางมายังวัดจอมหมอกนั้น หากมีรถยนต์ส่วนตัว จะสะดวกในการเดินทางมากกว่า เนื่องจากบริเวณหมู่บ้านห้วยไม้หกที่วัดจอมหมอกตั้งอยู่นั้น ไม่มีรถโดยสารสาธารณะ ผ่านเข้าออก


ประวัติการก่อตั้งเมืองตื๋นนันทบุรี

เมืองตื๋นนันทบุรี
  เรื่อง ตำนานพื้นเมือง เมืองตื๋นนันทบุรี ก็มีดังนี้  
          ยังมีพระยาสองต๋นปี้น้อง   ต๋นปี้จื่อว่า พระยาจ๊างเผือก ต๋นน้องมีจื่อว่า  พระยาเสิก  พระยาตังสองต๋นปี้น้องนี้ ลุกจากเมืองเจียงใหม่ลงมาตั้งเมืองตื๋นนันทบุรี ในปีกาบเส็ด  จุลศักราช ๘๐๔  .. ๑๙๘๕  เดือน  เหนือเป็ง   เม็งวันพุธ  ไตยเต้า  ยามแถรจัก  ใกล้เที่ยง พระจันทจรณะยุติ  เสด็จเข้าเตียวเตียม นักขัตฤกษ์ตั๋วที่ จื่อปุสสะ  ปรากฏรวายษี  พระยาตังสองต๋นปี้น้อง ได้มาตั้ง เมืองตื๋นนันทบุรี  พระยาจ๊างเผือกต๋นปี้อายุ ได้  ๓๗  ปี๋  พระยา เสิก ต๋นน้องอายุได้  ๓๕ปี๋  พระยาจ๊างเผือกต๋นปี๋เสวยเมืองได้   ปี๋  แล้วจิ่งจักได้ตั้งบ้านแป๋งเมือง  
         ลงไปตราบต่อเต๊าเถิง   ฟ่อนฟ้า   นาหง   สะหลง   แม่ระมาด   หินลาด  อมวาบ   นาไฮ   ท่าก๋อง   หนองแสง   ดินแดง   บ้านปอก    บ้านหมาก    ผาลา   
เถิง  จุลศักราช  ๘๑๙  ปี๋ ฉลู  นพศก  .๒๐๐๐  โป่มังจา  ( ข้าศึกพม่า )  ก็เข้ามารบกับพระยาจ๊างเผือกแลพระยาเสิก  ได้    วัน   โป่มังจาก็แตกตื่นทัพไปทาง  ผาสิงห์หินฝัง  หนตางลากอาม๊อก  พระยาเสิกต๋นน้องก็ไล่ตวยไปเถิงเด่นกระต่าย  แล้วพระยาเสิกก็ปิ๊กปอกคืนมาเถิงเมือง
          เถิง จุลศักราช ๘๙๔  ปี๋ มะโรง   จัตวาศก   . ๒๐๕๗  พระยาจ๊างเผือกต๋นปี้ก็จุติต๋ายไป เถิง จุลศักราช  ๘๙๘  ปีวอก   อัฏฐศก  .๒๐๗๙  พระยาเสิกต๋นน้อง จิ่งจักได้เสวยเมืองแตนแถมนานได้  ๑๑ ปี๋  แล้วก็ได้รบกับโป่หัวขาว ช่วยเจ้า , เจ้าเมย ได้เดือน  แล้วก็ป๊กปอกคืนมาเถิงเมือง เถิง จุลศักราช  ๙๖๐ ปี จอ  สัมฤทธิศก  .. ๒๑๔๑  พระยาเสิกก็จุติต๋ายไป

          เถิง จุลศักราช  ๙๖๑ ปี กุน  เอกศก  .. ๒๑๔๒   พระยาอาทิตตราช   ต๋นเป๋นลูกแห่งพระยาจ๊างเผือก ก็เสวยเมืองแตนแถม    เถิง จุลศักราช ๙๖๒ ปี๋ ชวด   เอกศก   ..   ๒๑๔๓  โป่จังมิง    ก็เข้ามารบกับ  พระยาอาทิตตราช   พระยาอาทิตตราชก็ไล่ตวยไปเถิง  ติ๋นดอยผาเวียง   แล้วฆ่าลูกน้อง โป่จังมิง  ต่อต๋าย     คน   แล้วพระยาอาทิตตราช   ก็ปิ๊ก ปอกคืนมาเถิงเมือง    
          เถิง  จุลศักราช  ๙๖๗  ปี๋ มะเส็ง    สัปตศก    .๒๑๔๘   พระยาอาทิตตราช    ก็มาโอบลาด  สร้างพระเจดีย์ธาตุจ้า   ดอยนางน้อง   วัดจอมแจ้ง  ด้านไหนกว้าง      ศอก    เวียนรอบจอดมี  ๓๖  ศอก    ลวงสูงมี   ๑๖  ศอก    ฉัตรธาตุ  มี     ใบ   วงฉัตรใบเก้าใหญ่กว้าง       คืบ   เถิง   จุลศักราช   ๑๐๒๘   ปี๋ มะเมีย   อัฏฐศก    ..   ๒๒๐๙   พระยาอาทิตตราช  ก็จุติต๋ายไป
          เถิง  จุลศักราช  ๑๐๓๑  ปี๋ ระกา   เอกศก   .๒๒๑๒   พระยาอุทุมราช   ผู้เป๋นน้องของพระยาอาทิตตราช    ก็เสวยเมืองแถมได้    ปี๋   โป่มาคำจันทร์   ก็เข้ามารบกับ  พระยาอุทุมราช   เถิงวันถ้วน     โป่มาคำจันทร์  ก็แตกตื่นทัพ  ไปตางเสลียม  บ้านสา  พระยาอุทุมราชก็ไล่ตวยไปเถิงหนองสี่ร้อย    เด่นน้อย   เด่นหลวง  ขึ้นไปตางมืดกาน้อย   บ้านร้อย   โป่มาคำจันทร์    ก็แตกตื่นทัพ  หนีลง   ไปตางมืดกาหลวง    พระยาอุทุมราชก็ปิ๊กปอกคืนมาเถิงเมือง    เถิง   จุลศักราช  ๑๑๑๓   ปี๋  มะแม   ตรีศก   .. ๒๒๙๖  พระยาอุทุมราช   ก็จุติต๋ายไป

          เถิง   จุลศักราช   ๑๑๑๕   ปี๋  ระกา    เบญจศก   .๒๒๙๖ พระยาอนันตราชต๋นเป๋นลูกแห่งพระยาเสิกก็เสวยเมืองแตนแถม  เถิง  จุลศักราช  ๑๑๑๘  ปี๋ชวด อัฏฐศก  .๒๒๙๙   พระยาอนันตราช     ก็มาริรังสร้างแป่งยังกำแพงแวด  พระธาตุเจ้า   ยังดอยนางน้อง    ลวงกว้างมี    ๒๓   วา    ลวงยาวมี   ๒๙  วา   ฐะปันนาไว้ยังวัดจอมแจ้ง  เมืองตื๋น  พร้อมกันนี้ได้บรรจุเกศาพระพุทธเจ้า    เส้น  ธาตุขี้เท่อ     ก้อน    รวมกั๋นมี      ดวง
          เมื่อเสร็จจากการสร้างกำแพงแวดธาตุเจ้า    และบรรจุเกศาธาตุขี้เท่อพระพุทธเจ้า   โอบลาดพระบรมธาตุเจ้า    แล้วเถิงเวลาพระธาตุเจ้าเสด็จออกเล่นไปตางดอยม่อนจอง  ไปหาพระธาตุเจ้าเมืองสร้อย   ไปตางบนหนอากาศ     หลังจากได้สร้างกำแพงแวดล้อม    พระธาตุเจ้าพร้อมประตูโขง       ด้าน     ครั้นเถิง  จุลศักราช    ๑๑๒๒    ปี๋  มะโรง     โทศก   .๒๓๐๓    ได้ทำการเบิกบายรวายศรี   ( ทำบุญฉลองใหญ่ )  ในปีกัดเหม้า   เดือน  เหนือเป็ง  เม็งวัน บริบูรณาแล้ววันนั้น  เมื่อได้ทำการสร้างพระวิหารพร้อมทั้งพระธาตุเจ้าและกำแพง  ประตูโขง  3 ด้าน   แล้วทำบุญฉลองใหญ่เสร็จเรียบร้อย   ต่อมาบ้านเมืองจักก้านกุ่งรุ่งเรืองไปปายหน้า  ในพื้นเมืองตื๋น    คนตังหลายจักอยู่ดีกิ๋นดี    มีความสุขหาอันตรายบ่ได้ชุผู้จุคน   ลูกไม้    ต้นข้าวตังหลายจักดี    ต่อเต๊าตราบถึงภัทกัปนี้    ข้านี้ขี้ยา    อันกล่าวห้องเรื่อง   ตำนานพื้นเมือง    เมืองตื๋นนันทบุรี    ก็บังคมสมเร็จเสด็จ

           ในอดีตที่ตั้งของอำเภออมก๋อยในปัจจุบันเป็นเพียงชุมชนเล็กๆตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางจากนครเชียงใหม่กับเมืองตื๋น ต่อมามีการสร้างถนนมาถึงบ้านอมก๋อยจึงมีการสร้างที่ว่าการอำเภอ สถานที่ราชการขึ้นที่นั่น  ต่อมาจึงกลายเป็นอำเภออมก๋อยในปัจจุบัน ส่วนเมืองตื๋นซึ่งอยู่ห่างจากบ้านอมก๋อยลงมาทางใต้อีก 76 กิโลเมตรกลายมาเป็นตำบลหนึ่งของอำเภออมก๋อย และถนนลาดยางเพิ่งมาถึงเมื่อปี ..2542 และในปี ..2525 ก็ถูกแบ่งการปกครองออกเป็น 2 ตำบล โดยใช้น้ำแม่ตื่นเป็นเส้นแบ่งระหว่างสองตำบล คือตำบลแม่ตื่น กับตำบลม่อนจอง ซึ่งทั้งสองตำบลก็คือเมืองตื๋นนันทบุรีในอดีตนั่นเอง
            
             เมืองตื๋นตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มน้ำแม่ตื๋นมีภูเขาสูงล้อมรอบลักษณะเป็นแอ่งกะทะพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีน้ำแม่เทย และลำห้วยขนาดเล็กอีกหลายสายเป็นแม่น้ำสาขาของน้ำแม่ตื๋นซึ่งไหลลงสู่แม่น้ำปิง



ที่ราบลุ่มน้ำแม่ตื่นมองเห็นภูเขาสูงสลับซับซ้อนอยู่ด้านหลัง

                น้ำแม่ตื๋นเปรียบเหมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงเมืองตื๋นชาวบ้านสามารถนำน้ำจากแม่ตื๋นมาใช้ในการเกษตรได้แม้กระทั่งฤดูแล้ง ทำให้ท้องทุ่งลุ่มน้ำแม่ตื๋นมีความเขียวขจีตลอดปี



ฝูงวัวกำลังข้ามลำน้ำแม่ตื๋นในช่วงฤดูแล้ง

                ตามประวัติการสร้างเมืองตื๋น ได้กล่าวไว้ว่าพญาสองพี่น้องคือ พญาช้างเผือกผู้พี่ และพญาเสิกผู้น้องได้นำรี้พลจากนครเชียงใหม่ลงมาสร้างเมืองตื๋นนันทบุรีเมื่อปี .. 1985 โดยพญาช้างเผือกเป็นพญาเจ้าเมืององค์แรก และได้ถึงแก่พิราลัยเมื่อปี ..2057 พยาเสิกกินเมืองต่อมาอีก 11 ปี จนถึงปี ..2068 ก็ถึงแก่พิราลัย พญาอาทิตตราชบุตรพญาช้างเผือกได้กินเมืองต่อมา ปี .. 2142 พญาอาทิตตราช ได้สร้างพระธาตุเจ้าจอมแจ้งดอยนางน้อง พญาอาทิตตราชถึงแก่พิราลัยเมื่อปี ..2209 พญาอุทุมราชผู้น้องพญาอาทิตตราชกินเมืองต่อมาจนถึงปี .. 2296 ก็ถึงแก่พิราลัย พญาอนันตราชบุตรพญาเสิกได้กินเมืองแทน อณาเขตของเมืองตื๋นในอดีตคือพื้นที่ส่วนใหญ่ของอำเภออมก๋อย และบางส่วนของอำเภอฮอดในปัจจุบันตลอดเวลาที่เมืองตื๋นรุ่งเรืองบุตรหลานพญาสองพี่น้องได้ปกครองทำนุบำรุงบ้านเมืองตลอดมาทุกยุคทุกสมัย



วัดพระธาตุเจ้าจอมแจ้งดอยนางน้อง

          ตามประวัติการสร้างเมืองตื๋นกล่าวว่าวัดพระธาตุเจ้าจอมแจ้งสร้างขึ้นในสมัยพญาอาทิตราช เมื่อปี ..2142 แต่ตามตำนานพระเจ้าเลียบโลกซึ่งเป็นตำตานที่แพร่หลายในเขตประเทศพม่า ล้านนา ล้านช้าง เชียงตุง เชียงรุ้ง เป็นตำนานที่กล่าวถึงการเสด็จโปรดเวนัยสัตว์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อนที่จะเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ได้กล่าวไว้ว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จมาที่ดอยนางน้องและได้ไว้พระบรมสารีริกธาตุขี้เต่อ (เสลด) บนดอยนางน้องนี้ ต่อมาพญาผู้ครองเมืองตื่นผู้หนึ่งได้สร้างพระเจดีย์แล้วบรรจุพระบรมสารีริกธาตุนั้นไว้เป็นพระธาตุจอมแจ้งพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองตื๋นมาจนกระทั่งปัจจุบัน
          วัดจอมแจ้งเป็นโบรานสถานเก่าแก่ที่ยังคงมีสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ประกอบด้วยองค์พระธาตุขนาดเล็กศิลปะล้านนาอิทธิพลพม่าที่ได้รับการบูรณะให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์มาตลอด องค์พระธาตุและพระวิหารถูกล้อมรอบด้วยแนวกำแพงแก้วซึ่งกำหนดเป็นเขตพุทธาวาส กำแพงแก้วนี้ก่อด้วยอิฐไม่สอปูนมีซุ้มประตูโขงขนาดใหญ่อยู่ทางทิศตะวันออก และมีประตูโขงขนาดเล็กอยู่ทางทิศเหนือ ส่วนทางทิศใต้ได้หักพังลง
          โบรานวัตถุที่สำคัญได้แก่องค์พระเจ้าทันใจ เป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนแบบสิงห์หนึ่งชาวตำบลแม่ตื่น-ม่อนจองให้ความเคารพนับถือมากเป็นพระพุทธรูปคู่เมืองทางวัดได้เก็บรักษาไว้อย่างดีรวมกับโบรานวัตถุอื่นๆอีกมากมายซึ่งเป็นสมบัติอันล้ำค่า และหวงแหนของชาวเมืองตื๋น




ซุ้มประตูโขงเข้าวัดพระธาตุจอมแจ้งทางทิศตะวันออก


ซุ้มประตูโขงและแนวกำแพงแก้วมองจากด้านหน้าพระวิหาร


โขงทางเข้าด้านด้านทิศใต้

องค์พระธาตุจอมแจ้ง

พระประธานในวิหารวัดพระธาตุจอมแจ้ง 



หนึ่งในเขากระทิงที่มีผู้นำมาถวาย

ลวดลายปิดทองบนเสาวิหารวัดพระธาตุจอมแจ้ง 

แท่นบูชาควงไม้สะหรี (พระศรีมหาโพธิ) ด้านข้างพระวิหาร

มองจากกำแพงวัดซึ่งตั้งอยู่บนเนินสูงมองเห็นท้องนาด้านทิศใต้ของวัด

พระเจ้าทันใจพระพุทธรูปคู่เมืองตื๋น

พระพุทธรูปสำคัญเก่าแก่ของวัดจอมแจ้ง



เมืองตื๋นในปัจจุบัน


                ปัจจุบันเมืองตื๋นคือตำบลแม่ตื่น-ม่อนจอง อำเภออมก๋อยจังหวัดเชียงใหม่ เฉพาะตำบลแม่ตื่นมีพื้นที่ 584.48 ตารางกิโลเมตร ระยะทางจากตัวจังหวัดเชียงใหม่ถึงตำบลแม่ตื่น 250 กิโลเมตรและอยู่ห่างจากตัวอำเภออมก๋อยระยะทาง 76 กิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน เต็มไปด้วยป่าเขา สัตว์ป่าและพืชพันธ์หายาก เช่น ช้างป่า เลียงผา กระทิง ซึ่งหากินอยู่ในพื้นที่ของตำบล นาเกียน แม่ตื่น และม่อนจอง ประชากรส่วนใหญ่ของตำบลแม่ตื่นร้อยละ 70 เป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงที่ปัจจุบันได้ละทิ้งจารีตประเพณีดั้งเดิมเข้ารีตนับถือศาสนาคริสต์ไปเป็นส่วนมาก มีเพียงบางส่วนที่ยังคงรักษาความเชื่อดั้งเดิมไว้ได้ และบางส่วนเป็นพุทธศาสนิกชน
                ตำบลแม่ตื่นแบ่งการปกครองออกเป็น 16 หมู่บ้าน 6 หมู่บ้านเป็นคนพื้นเมืองที่เรียกตัวเองว่าคนไตซึ่งเป็นกลุ่มคนดั้งเดิมของเมืองตื๋นอาศัยอยู่ที่ราบลุ่มน้ำแม่ตื่น นอกนั้นเป็นหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงที่แต่ละหมู่บ้านอยู่บนภูเขา ห่างไกล และเข้าถึงลำบาก ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา ทำไร่ และเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะการเลี้ยงวัวที่เป็นการเลี้ยงแบบโบราณคือปล่อยให้หากินเองในป่าโดยเจ้าของจะเข้าไปดูเป็นบางครั้ง เรียกว่าเลี้ยงวัวป่า ดังนั้นเส้นทางจากอมก๋อยเข้าแม่ตื่นจะมีวัวเลี้ยงแบบนี้อยู่ตามข้างถนน และบนถนนตลอดทาง และวัวเหล่านี้จะหลับนอนบนถนนนั่นเอง น่าแปลกที่ไม่มีปัญหาลักขโมย แสดงถึงความสงบร่มเย็นของชาวตำบลแม่ตื่นได้เป็นอย่างดี
                ปัจจุบันตำบลแม่ตื่นมีระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็น ไฟฟ้า น้ำประปา โรงเรียนมัธยมประจำตำบล สถานีอนามัย  สถานีตำรวจ และส่วนราชการอื่นๆมาให้บริการแก่ประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีตามอัตภาพ  และมีองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ตื่นเป็นองค์กรตัวแทนของประชาชนมาทำหน้าที่บริหารงานเพื่อสร้างความเจริญให้แก่ตำบลแม่ตื่น ปัจจุบันมี
นายสมยศ  ไชยบุญเรือง เป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล มีแผนงาน โครงการ และผลงานมากมายที่มุ่งสร้างความเจริญให้แก่ตำบลแม่ตื่นต่อไปในอนาคต
           พระสงฆ์ สามเณร และเด็กวัด ของวัดจอมแจ้งเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว

        ทิวเขาที่ล้อมรอบตำบลแม่ตื่น

ฝูงวัวที่เลี้ยงแบบวัวป่ากำลังข้ามน้ำแม่ตื่น

หมูพันธุ์พื้นเมือง

ที่นาแบบขั้นบันไดตามแนวลำน้ำแม่ตื่น

การปลูกข้าวนาปรัง(ข้าวนาดอ) และปลูกถั่วในฤดูแล้ง

นาแบบขั้นบันไดที่สามารถเพาะปลูกได้เฉพาะในฤดูฝน



ส่วนหนึ่งของโบรานวัตถุที่ขุดพบในตำบลแม่ตื่น